You are currently viewing ทำความรู้จัก Green Logistics คำตอบสำหรับธุรกิจยุคใหม่

ทำความรู้จัก Green Logistics คำตอบสำหรับธุรกิจยุคใหม่

ในปี 2566 แนวคิด Green Logistic หรือ โลจิสติกส์สีเขียว เกี่ยวกับความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อม กำลังกลายเป็นประเด็นสำคัญที่ทั่วโลกให้ความสนใจ อุตสาหกรรมต่างๆ มุ่งสู่การดำเนินงานที่ยั่งยืน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทาน เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของการค้าทั้งในประเทศและระดับโลก แต่โลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทานก็เป็นแหล่งปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่สำคัญเช่นกัน จากข้อมูลของธนาคารโลก การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการขนส่ง คิดเป็น 20% ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลก และคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 60% ภายในปี 2593

TMS Green logistic

โลจิสติกส์สีเขียว จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อจัดการโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทานให้สอดคล้องกับการดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน วันนี้เราจะพาไปทำความเข้าใจว่าทำไม Green Logistics ถึงมีความสำคัญกับภาคธุรกิจ

Green Logistics คืออะไร?

โลจิสติกส์สีเขียว เป็นการใช้เทคโนโลยีและวิธีการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อลดผลกระทบต่อโลก โดยการลดการใช้พลังงานที่เป็นมลพิษ การใช้วัสดุที่มีการกำหนดมาตรฐานสิ่งแวดล้อม และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งการนำหลักการเหล่านี้มาปรับใช้ในกระบวนการขนส่งและโลจิสติกส์จะช่วยลดการมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ

ประโยชน์ของ Green Logistics

Green logistics benefits

1. ลดการสร้างมลพิษ

การใช้เทคโนโลยีและกระบวนการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในโลจิสติกส์ช่วยลดการสร้างมลพิษที่มาจากการเผาผลาญน้ำมันรถบรรทุกและการขนส่งในรูปแบบต่าง ๆ เช่นการนำระบบบริหารจัดการการขนส่ง หรือ Transportation Management System (TMS) มาใช้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจก เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนวิธีการจัดการขนส่งให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเทคโนโลยีนี้มีบทบาทสำคัญในการวางแผนการจัดเที่ยววิ่ง การกำหนดเส้นทาง และการจัดลำดับจุดส่งที่เหมาะสม เพื่อลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง การจัดสรรการใช้รถบรรทุกขนส่งให้เหมาะสม และการจัดสินค้าให้คุ้มค่ากับการเดินทางทั้งไปและกลับ

2. เปิดโอกาสทางการค้า

การที่ธุรกิจมุ่งเน้นในด้าน โลจิสติกส์สีเขียว เป็นการ เปิดประตูสู่โอกาสทางการค้าที่กว้างขวาง การมีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจน จะช่วยสร้างโอกาสทางการค้าให้กับธุรกิจของคุณมากขึ้น เพราะปัจจุบันเทรนด์โลกกำลังมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ผู้บริโภคต่างให้ความสำคัญกับสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หลายประเทศเริ่มเข้มงวดกับมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม มากขึ้น หากธุรกิจของคุณไม่มีนโยบายที่ชัดเจน อาจถูกกีดกันทางการค้า ส่งผลเสียต่อธุรกิจในระยะยาว นอกจากนี้การใส่ใจสิ่งแวดล้อม ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจ แสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ดึงดูดลูกค้าและพันธมิตรที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ธุรกิจที่มุ่งเน้นการผลิตและบริการที่ยั่งยืน จะมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำลง ประหยัดทรัพยากรและพลังงาน ช่วยให้ธุรกิจของคุณมีความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง

3. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า

โลจิสติกส์สีเขียว เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า เนื่องจากในสมัยนี้ลูกค้ามีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญกับธุรกิจที่มุ่งมั่นในเรื่องของความยั่งยืน (Sustainability) โดยเฉพาะ หากธุรกิจใดมีการใส่ใจในด้านนี้ จะสามารถได้รับการตอบรับที่ดีขึ้นจากลูกค้าได้มากขึ้นเช่นกัน

4. ลดต้นทุนและเพิ่มผลกำไร

โลจิสติกส์สีเขียวสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง เช่น การใช้ระบบการนำทางและการวางเส้นทางที่อัตโนมัติ (VRP) ช่วยให้วางแผนเส้นทางที่ประหยัดน้ำมันและเวลาในการขนส่งมากขึ้นระบบอัจฉริยะสามารถวิเคราะห์สภาพการจราจรแบบเรียลไทม์ เพื่อเลี่ยงเส้นทางที่มีรถติด ช่วยให้จัดการการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดระยะทางที่ไม่จำเป็น

“Green Logistics คือกุญแจสำคัญที่จะนำพาอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และโลกของเราไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน”

ดังนั้น การทำธุรกิจแบบ Green Logistics ไม่เพียงแต่เป็นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจและเพิ่มความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าอีกด้วย อย่างไรก็ตาม การลงทุนและการดำเนินการในแนวนี้จำเป็นต้องมีการวางแผนและคำนึงถึงความยั่งยืนในระยะยาวในการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม

Facebook
Twitter
LinkedIn